อาหารคีโตคือ ในปัจจุบันเทรนการลดน้ำหนักมาแรงมากในหมู่ของสาวๆ ซึ่งในปัจจุบันมีสาวๆที่น้ำหนักขึ้นเยอะมากกับการทานชาบู หมูกระทะ ก็มันอร่อยนี่น้า แอดก็เป็นเหมือนกันเลยสาวๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วน้ำหนักก็อยากจะลด ของกินก็อร่อยเหลือเกิน ออกกำลังกายก็ไม่มีความสุขเลยสิ่งเดียวที่จะทำให้มีความสุขได้ก็คือการกิน แล้วถ้าวันนี้แอดมาบอกเคล็ดลับดีๆละ ไม่ต้องอดอาหารที่เราชอบด้วย ยังสามารถทานเนื้อหมู เบคอนที่เป็นไขมันได้อยู่ แต่น้ำหนักลดลง กับการกินอาหารคีโต สาวๆคงสงสัยใช่ไหมว่าอาหารคีโตคืออะไรกันแน่ ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วคนเราจะเผาผลาญน้ำตาลในเลือดจากการย่อยของคาร์โบไฮเดรตมาเป็นพลังงานแก่ร่างกาย แต่การทานคีโตคือการกินคาร์โบไฮเดรตให้น้อยจึงทำให้น้ำตาลในเลือดไม่เพียงพอต่อร่างกาย ร่างกายจึงนำไขมันมาเผาผลาญพลังงานแทน สภาวะพวกนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ทานคีโตไปแล้ว 2-4 วัน เป็นยังไงกันบ้างสาวๆ พออ่านมาถึงตรงนี้รู้สึกมีกำลังใจในการลดน้ำหนักกันบ้างหรือยัง อย่างน้อยก็ยังได้ทานพวกเนื้อสัตว์และลองลดพวกคาร์โบไฮเดรต พวกแป้ง ข้าวลดลง ก็คืออยากให้สาวๆลองปรับเปลี่ยนวิธีการทานอาหารดูโดยเน้นไปที่ไขมันถึง 75% เลยต่อการกิน และให้ความสำคัญพวกคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง เรามาดูกันว่าการทานอาหารคีโตไปนานๆจะเกิดผลดีและผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างไรกันบ้าง
ข้อดีของการทาน อาหารคีโตคือ อะไรกันแน่
สาวๆคนไหนที่กำลังตัดสินใจทานอาหารคีโต มาดูกันว่าข้อดีของการทานอาหารคีโตคือจะมีอะไรกันบ้างให้สาวๆได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
1. น้ำหนักลดลง – หลังจากทานอาหารคีโตน้ำหนักจะลดลงอย่างรวดเร็วไม่มีอาการบวมน้ำ เพราะร่างกายไม่ได้สารอาหารจากคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล แป้งในปริมาณที่ลดลง และทานไขมันมากขึ้นร่างกายจะนำไขมันมาเป็นพลังงานเผาผลาญแทน และทำให้รู้สึกหิวน้อยลงด้วย
2. การเผาผลาญของไขมันส่วนต่างๆดีขึ้น – การที่เราทานคาร์โบไฮเดรตลดลง ทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณช่องท้อง ต้นแขนต้นขาถูกนำไปใช้ และจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายของเราอยู่ในระดับที่ปกติ ทำให้ไม่เสี่ยงเป็นไขมันอุดตันได้ไง เพราะไขมันเผาผลาญเป็นพลังงานนั้นเอง
3. เอาใจคนรักการกินไขมัน – ข้อดีสำหรับแอดเลย เอาใจสายกินอย่างเราที่ไม่ต้องอดพวกไขมัน ยังสามารถทานสามชั้น เบคอน เนย ได้ปกติ ซึ่งเป็นประเภทอาหารที่หลายคนชอบทานอยู่แล้ว
4. ช่วยแก้โรคภัยและหลีกเลี่ยงได้ – การทานอาหารคีโตยังช่วยในเรื่องของโรคได้ อาทิ การลดลมอาการลมชัก โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคพาร์กินสัน และยังช่วยในเรื่องของระบบประสาทได้ดี
ข้อเสียของการกิน อาหารคีโตคือ อะไร
การทานอาหารคีโตคือกินมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เสียสุภาพร่างกายได้เหมือนกัน จะมีผลเสียหรือผลข้างเคียงอะไรกันบ้างนะ
1. ระบบขับถ่ายไม่ดี – เนื่องจากการทานอาหารคีโตได้รับแต่ไขมัน และรับพวกโปรตีน ผักผลไม้น้อยทำให้ระบบย่อยอาหารของสาวๆอาจจะไม่ดีและเกิดอาการท้องผูกได้ง่าย
2. ขาดวิตามินแร่ธาตุให้ร่างกาย – อาหารบางชนิดที่จำเป็นต้องลดลงอย่างผักและผลไม้ที่มีน้ำตาลทำให้ขาดวิตามินและแร่ธาตุได้ และสภาวะการขาดน้ำตาลมากจนเกินไปอาจจะทำให้เครียด คลื่นไส้ ปวดหัวได้ง่าย และมีความอยากของหวาน
3. ผลข้างเคียง – ทำให้ผิวพรรณดูหมองลง มีโอกาสเกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอาจจะหงุดหงิดได้ง่าย สมองคิดช้า การหายใจอาจจะที่ผิดจังหวะ เกิดอาการกระหายน้ำบ่อย
4. ปัญหาของโรค – อย่างแรกคนที่เคยถามคีโตแล้วหยุดทานน้ำหนักจะกลับมาอีก เกิดปัญหาหลอดเลือดหัวใจตามมา และไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวานเพราะการลดแบบคีโตต้องลดปริมาณน้ำตาลลง
อาหารคีโตคืออย่างไร กินอะไรได้บ้างและไม่ควรกินอะไรบ้าง
การเลือกทานให้เข้ากับการลดน้ำหนักแบบคีโต จะมีวัตถุดิบแบบไหนกันบ้าง
วัตถุดิบที่สามารถทานได้
- ไขมันอิ่มตัว เช่น เนื้อสัตว์ที่มีไขมัน เนื้อสัตว์ทุกชนิดแบบติดมัน เนย ชีส
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดียว เช่น น้ำมันมะกอก ประเภทของถั่ว อัลมอนด์
- ผักใบเขียว เช่น ผักใบเขียวทุกชนิดเลย
- ผลิตภัณฑ์ทำจากนม 100% เช่น ชีส เนยแท้
- เส้นที่ไม่ใช่แป้ง เช่น เส้นบุก ข้าวบุก เส้นแก้ว
- เครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล
วัตถุดิบที่ไม่สามารถทานได้
- อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม เบเกอรี่พวกขนมเค้ก ซอส เครื่องปรุง
- ผลไม้ที่มีน้ำตาลเยอะ เช่น กล้วย ทุเรียน ขนุน ลองกอง
- อาหารแปรรูป เช่น หมูยอ ไส้กรอก
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- อาหารประเภทแป้ง
สำหรับสาวๆที่กำลังลังเลว่าควรลดน้ำหนักแบบการทานอาหารคีโตดีหรือป่าว ยังไม่รู้แน่ๆว่าอาหารคีโตคืออะไร และถ้าทานไปจะได้ผลชัดเจนหรือป่าว อยากจะบอกว่าคนเราควรที่จะลงมือทำจากสิ่งที่เล็กๆก่อนก็ได้คือลดปริมาณข้าวที่ทานทุกมื้อลงจากเดินทาน 2ทัพพีอาจจะลดลงเหลือ 1ทัพพีและเน้นกับข้าวให้มากเช่นเนื้อสัตว์ หรือทานกับข้าวให้มากกว่าการทานข้าว ซึ่งการลดน้ำหนักแบบทานอาหารคีโตก็ควรดูสุขภาพตัวเองเป็นหลักว่าเราสามารถเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ได้หรือป่าว คนที่เหมาะที่จะลดควรวัดค่า BMI ต้องอยู่ในส่วนของมาตรฐานคือ BMI 25 ขึ้นไป ควรมีร่างกายที่ปกติไม่มีโรคใดๆ แต่ถ้าต่ำกว่า 18 ไม่ควรเลือกวิธีคีโตลดน้ำหนัก คนที่มีปริมาณไขมันในร่างกายที่มากอยู่แล้วไม่ว่าจะมากในส่วนของหน้าท้อง ต้นแขนต้นขาก็ได้ หรือคนที่จ้องการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น และคนที่ไม่เหมาะกับการทานอาหารคีโตเลยคือ คนที่เป็นโรคเบาหวานแต่ถ้าเป็นขั้นที่ 2 ยังสามารถทานได้อยู่เพราะตับอ่อนยังสร้างอินซูลินได้อยู่บ้าง คุณแม่ตั้งครรภ์หลังคลอด ให้นมลูกอยู่ไม่ควรเลย คนที่เคยผ่าตัดทางเดินอาหารมาก็ไม่ควรเหมือนกัน และคนที่เป็นกรดไหลย้อน ท้องอืด เพราะถ้าปริมาณไขมันในร่างกายสูงมาก จะทำให้โรคพวกนี้มีอาการกำเริบได้ การทานคีโตถือจะเป็นผลดีของสาวๆที่ชอบทานแล้ว ก็ยังมีผลเสียที่ตามมาในช่วงแรก แต่ถ้าผ่านมันไปได้สาวๆก็จะได้หุ่นที่ดีกลับมา